เปิดตัว OPPA เมื่อเว็บไทยรวมตัวสู้ศึกโฆษณาออนไลน์ต่างชาติ
18 ต.ค. 60 โฆษณา 1811

เปิดตัว OPPA เมื่อเว็บไทยรวมตัวสู้ศึกโฆษณาออนไลน์ต่างชาติ

15 เว็บไทยชั้นนำ ร่วมกันก่อตั้ง OPPA (Online Premium Publisher Association) หรือสมาคมการค้าสื่อออนไลน์คุณภาพ เพื่อสร้างมาตรฐานโฆษณาออนไลน์ให้ตรงกัน ตรงใจผู้ซื้อโฆษณามากขึ้น และลดการรั่วไหลของเงินตราไปยังบริษัทต่างชาติ

ที่ผ่านมารูปแบบการซื้อโฆษณาในเว็บไทยนั้นมี 2 รูปแบบหลักๆ นะครับ คือซื้อตรงผ่านฝ่ายขายของเว็บ ที่มีจุดเด่นคือเลือกจุดลงได้ การันตีคุณภาพ แต่เข้าถึงผู้ใช้น้อย เพราะจำกัดแค่คนที่เข้าเว็บนั้นเท่านั้น และอีกรูปแบบหนึ่งคือซื้อผ่าน Ad Network เช่น Google AdWord หรือ Facebook Audience Network ที่สามารถยิงโฆษณาในเว็บจำนวนมากที่อยู่ในเครือข่ายได้

เปิดตัวสมาชิกก่อตั้ง OPPA

ก็แน่นอนว่าเครือข่ายโฆษณายักษ์ใหญ่นั้นมาจากต่างประเทศทั้งหมดครับ ซึ่งประมาณการกันว่าแต่ละปีมีเงินโฆษณาไทยไหลไปบริษัทต่างชาติอย่าง facebook และ Google มากกว่าหมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ซึ่งเม็ดเงินโฆษณาที่เครือข่ายโฆษณาต่างชาติจ่ายกลับมาก็ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่ามาก เมื่อรายได้ของเว็บไม่สัมพันธ์กับรายจ่ายเพื่อการผลิตเนื้อหา จึงเกิดปัญหาตามมามากมาย ทั้งคุณภาพเนื้อหาที่ตกลง ตำแหน่งโฆษณายัดเหยียดผู้ใช้ 15 เว็บยักษ์ใหญ่ในไทยจึงรวมตัวกันเพราะสร้างเครือข่ายโฆษณาของตัวเอง เพื่อสร้างมาตรฐานของวงการโฆษณาบนเว็บไทยครับ

สมาชิกก่อตั้งของ OPPA

  • bectero.tv
  • bectero Radio
  • Dek-D
  • Kapook
  • Major Cineplex
  • manager online
  • MThai
  • OKnation
  • OTV
  • Pantip
  • Post Today
  • Sanook
  • Siamsport
  • ไทยรัฐ

ซึ่งสถิติรวมของ 15 เว็บตอนนี้คือ 1800 ล้านเพจวิวต่อเดือน มีจำนวนการเห็นโฆษณา (impression) 5,000 ล้านครั้งต่อเดือน ทั้งแบบแบนเนอร์และวิดีโอ ซึ่งหลังจากทดสอบระบบ OPPA สามารถเก็บคุกกี้ได้ราว 7.5 – 10 ล้าน user เพื่อติดตามโฆษณาข้ามเว็บไปมาในระบบได้

ข้อดีของเครือข่ายโฆษณา OPPA

สำหรับคนลงโฆษณาแล้ว ประเด็นเรื่อง Brand safety นั้นสำคัญมาก โฆษณาที่ลงกับ OPPA จะเชื่อได้ว่าถูกยิงบนเว็บชั้นนำของไทย ไม่เอาไปยิงในเว็บเถื่อนไก่กา (เช่นยิงโฆษณาแบรนด์ดังในเว็บดูหนังเถื่อน มันก็เสียภาพลักษณ์) จนเสียแบรนด์ นอกจากนี้ตำแหน่งโฆษณาบนเว็บสมาชิกในเครือ ยังเป็นตำแหน่งสำดับบนที่คนเห็นเยอะ และเป็นโฆษณาที่จะยิงในเว็บไทย ให้คนไทยอ่าน ไม่ใช่หลุดไปยิงเว็บนอกให้ฝรั่งอ่าน (แต่ไม่เข้าใจ)

โฆษณาในเครือข่ายจะซิงค์กัน ด้วยคุกกี้กลางจะเก็บข้อมูลผู้ใช้ระหว่างกัน ทำให้แสดงโฆษณาที่เหมาะสมกับผู้ใช้ได้มากขึ้น ผู้ลงโฆษณาก็ได้ผู้ชมมากขึ้นจากการที่ผู้ใช้ไปเห็นโฆษณาบนเว็บอื่นๆ ที่ตัวเว็บอาจไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย แต่ผู้ใช้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเข้าไปกดอ่าน (เช่นเห็นโฆษณาความงามในแบไต๋ ก็เพราะว่าผู้ใช้อาจเป็นผู้หญิงที่สนใจเรื่องความงาม ระบบยิงโฆษณาตามความสนใจของบุคคล)

นอกจากนี้ผู้ใช้หรือ Agency ยังมี self-serve platform เพื่อซื้อโฆษณาในระบบ OPPA ด้วยตัวเองได้ (เหมือนซื้อโฆษณาเฟซบุ๊ก) โดยเบื้องต้นจะมีทีมงานเพื่อตรวจสอบโฆษณาทุกชิ้นที่ขึ้นในระบบ เพื่อป้องกันโฆษณาที่ล่อแหลม อันตรายต่อผู้ใช้และเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบราว 3 วันทำการ

ระบบโฆษณา OPPA จะเริ่มส่งโฆษณากับ 15 เว็บก่อตั้งในเดือนมิถุนายนนี้ และในไตรมาส 4 น่าจะเริ่มเปิดให้เว็บอื่นๆ เข้ามาลงทะเบียนเข้าร่วมเครือข่าย OPPA ได้

เฟื่องลดาเป็นพิธีกรในงาน

สำหรับใครที่สนใจ ก็รอติดตามข้อมูลจากเว็บ Oppathailand.com (ชื่อเว็บอาจจะเหมือนเว็บแฟนคลับเกาหลีหน่อย)

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

‘พิสิษฐ์’ ยันสื่อต้องมีใบอนุญาต ใครไม่มีจำคุก เพจดัง-ข่าวออนไลน์ ถ้ามีรายได้ ถือเป็นสื่อหมด


18 ต.ค. 60  รัฐ/กฎหมาย

“พิสิษฐ์” ยัน สื่อต้องมีใบประกอบวิชาชีพ ไม่ต่างจากนวดแผนโบราณถ้า ชี้ ใครไม่มีก็ต้องจำคุกเหมือนกัน ยก เว็บ sanook – kapook เข้าข่ายสื่อออนไลน์ภายใต้กม.คุ้มครองสื่อ เมื่อวันที่ 26 เมษายน พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองประธานกรรมาธิการ (กมธ.)

ฟังความเห็น ผู้เชี่ยวชาญ ได้เวลา เก็บภาษีอีคอมเมิร์ซ และเน็ตไอดอล หรือยัง ?


18 ต.ค. 60  เน็ตไอดอล

มติชน สมาร์ทบิซ วันที่ 28 ก.ย.2559 ตัวเลข ล่าสุด ระบุว่า มูลค่าการค้า อีคอมเมิร์ซ ของไทย พุ่งสูงไปกว่า 2.24 ล้านล้าน พร้อมๆ กับมีข่าว ก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาล เตรียม เก็บภาษี อีคอมเมิร์ซ และ เน็ต ไอดอล มุมมอง และ ผลกระทบ จะเป็นอย่างไร? ไปฟังทัศนะทางกฎหมา

ผลวิจัย Path to Purchase เผยคนไทย 9 ใน 10 ตัดสินใจเลือกแบรนด์ล่วงหน้าก่อนไปซื้อที่ร้าน


28 มิ.ย. 60  ช้อปปิ้งออนไลน์

“Think Telco” Google ได้นำเสนอผลงานการวิจัยใหม่เกี่ยวกับพฤติกรรมการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือของผู้บริโภคไทยในยุคปัจจุบันที่สื่อต่างๆ นำเสนอเรื่องราวในหลากหลายแง่มุมที่แตกต่างกันออกไป โทรศัพท์มือถือเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย เฉพาะในปี 2559 มีโทรศัพท์มือถือถูกจำหน่ายออกไปกว่า 14.8 ล้านเครื่อง1  แต่คนไทยมีวิธีการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือและแพ็คเกจการใช้งานอย่างไรบ้าง?