เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 20 เมษายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.จีร่าร์ พิทักษ์พรตระกูล หรือกัสจัง เน็ตไอดอล พร้อม นายภูริวัจน์ หรือท๊อป วงศ์วุฒิอิสระ แฟนหนุ่มดีกรีนายแบบเอเชียโมเดล และนายพลชย กุลเบญจสิริ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้เข้าแจ้งความหลังตกเป็นหนึ่งในผู้เสียหายกรณีถูกลอยแพ ไม่ได้เดินทางไปทัวร์ญี่ปุ่น ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
น.ส.จีร่าร์ กล่าวว่า ตนและกลุ่มผู้เสียหายเดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากเข้าแจ้งความเมื่อวันที่13เมษายนที่ผ่านมา กรณีของตนเนื่องจากไปกินข้าวกับนายพลชย เป็นอาจารย์ที่นับถือกัน ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง จากนั้นเจอน.ส.เอมมี่กับนายแจ๊ค เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ เข้ามาทักทายพร้อมชักชวนว่า สงกรานต์ไปเที่ยวไหนอยากชวนไปเที่ยวญี่ปุ่น5วัน4คืน ในราคา9,370บาท โดยตอนแรกตนเอะใจว่าทำไมราคาถึงได้ถูกขนาดนี้ ทางน.ส.เอมมี่กับนายแจ๊ค จึงอธิบายว่าเป็นแผนการโปรโมททางการตลาดของบริษัทแห่งนี้ ที่ต้องการให้เหล่าสมาชิกเดินทางไปเที่ยวและนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทไปถ่ายรูป แทนการโฆษณาจ้างดารา เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบริษัทหรือขายผลิตภัณฑ์ เพราะตนมีธุรกิจขายอาหารเสริมอยู่แล้ว จึงตัดสินใจโอนเงินไป พร้อมชักชวนบรรดาเพื่อนในกลุ่มที่เดินทางไปเที่ยวกันบ่อยๆ มีประมาณกว่า 30 คนที่สนใจ โอนเงินเข้าบัญชีของ นายสุทิน (ขอสงวนนามสกุล) ไม่มีใครโอนเงินผ่านบัญชีของตนเลย
น.ส.จีร่าร์ กล่าวต่อว่า ตอนนั้นคนที่มาชักชวนบอกเพียงว่ามีเวลาให้ตัดสินใจเพียง4ชั่วโมง เนื่องจากมีที่นั่งเหลือ จึงได้ชักชวนเพื่อนในกลุ่มที่ปกติไปเที่ยวกันอยู่แล้วผ่านทางไลน์ ยอมรับว่าในส่วนของข้อความที่ได้มีการพูดคุยในแอพพลิเคชั่นไลน์ ที่หลุดออกมานั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง มีการพาดพิงไปถึงดาราคนอื่นๆในส่วนนี้ตนรู้สึกกังวลมากกว่าเรื่องคดีความ ขอชี้แจงว่าในบทสนทนาในไลน์เป็นข้อความที่ได้รับมาจากคนอื่น ด้วยความที่เรารีบที่ชักชวนได้ส่งต่อไปในไลน์กลุ่ม โดยส่งต่อข้อความไปตามนั้น มีคนถามมายังบทสนทนาส่วนตัวว่าตนไปหรือไม่ มีใครไปบ้าง ตนจึงอธิบายไปในไลน์กลุ่มว่ามีดาราคนนี้ไปด้วย และทางทัวร์ก็ให้เราแยกไปกับกลุ่มดารา ทั้งนี้หากไปดูในบทสนทนาในไลน์ตนบอกชัดเจนว่า ไปเที่ยวอย่างเดียว อาหารเสริมไม่ยุ่ง ธุรกิจก็ไม่ยุ่ง เราก็ได้บอกชัดเจนไปแล้วผ่านคนที่มาชักชวนว่าไม่ทำธุรกิจ แต่คนที่ชักชวนยังบอกว่าหากไม่เชื่อถือจะพาเราสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อไปดูการทำธุรกิจของชินแสโชกุน ตนได้ปฏิเสธไป โดยตอนนั้นไม่รู้ว่าซินแสโชกุนเป็นใครพร้อมกันนี้ไม่เคยเจอหน้าซินแสโชกุน หรือว่ารู้จักเป็นการส่วนตัว กระทั่งมีข่าวปรากฏ อย่างไรก็ตามขอโทษทุกคนด้วยที่ทำให้เดือนร้อน ยืนยันว่าไม่ได้เป็นสมาชิกของบริษัทดังกล่าว ทุกคนจ่ายเงินเพียงเพราะต้องการจะเดินทางไปเที่ยวเท่านั้น และหลังจากเกิดเรื่องก็พยายามติดต่อไปยังนายสุทิน ก็ติดต่อไม่ได้ ทั้งที่ตอนแรกระบุว่าเป็นผู้บริหารบริษัท แต่ตอนหลังบอกว่าเป็นผู้เสียหายด้วย
ด้านนายพลชย กล่าวว่า การไปเที่ยวของเราไม่ผิด คนที่ผิดคือคนที่ลวงโลก วอนผู้หลักผู้ใหญ่ให้เคลียร์คดีให้เสร็จสิ้นเพื่อที่จะนำเงินมาให้เรา คนที่มาชักชวนเป็นลูกศิษย์ของตนที่รู้จักกัน โดยทางน.ส.เอมมี่เอารูปคนที่ไปเที่ยวมาให้เราดู เราเลยเชื่อว่าไปได้จริง จึงตัดสินใจโอนเงินไป ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้ในส่วนของตนไม่ได้ชักชวนใครเพิ่ม
ขณะที่พ.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำ และรวบรวมข้อมูลเพื่อตรวจสอบว่าน.ส.จีร่าร์ เกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับคดีดังกล่าวมากน้อยเพียงใด ตัวของดาราสาวเข้ามาให้ข้อมูลในฐานะผู้เสียหายคนหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตามสำหรับข้อมูลของเจ้าของบัญชีผู้รับโอนเงิน ที่น.ส.จีร่าร์และเพื่อนๆโอนเงินไปให้นั้น ขณะนี้ตำรวจมีข้อมูลแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อพิจารณาว่าบุคคลดังกล่าวเข้าข่ายร่วมกระทำความผิดหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่าบัญชีที่น.ส.จีร่าร์และเพื่อนโอนเงินค่าตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นให้นั้น เป็นบัญชีของนายสุทิน (สงวนนามสกุล) ที่เคยเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ป.เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยระบุยอดความเสียหายกว่า1.9ล้านบาท อย่างไรก็ตามเมื่อน.ส.จีร่าร์ระบุว่านายสุทินแสดงตัวเป็นผู้บริหารของบริษัทที่จะพาไปเที่ยวญี่ปุ่น ระบุวันเดินทางเป็นวันที่12 เมษายน และเมื่อเกิดเหตุทางผู้เสียหายพยายามทวงถามไปยังนายสุทิน แต่กลับปฏิเสธภายหลังว่าตนตกเป็นผู้เสียหายด้วยนั้น ทางตำรวจต้องนำคำให้การของน.ส.จีร่าร์มาประกอบเพื่อยืนยันว่านายสุทินระบุตัวตนอย่างไรกันแน่ ก่อนจะนำมาพิจารณาอีกครั้งว่านายสุทินเข้าข่ายร่วมกระทำความผิดหรือไม่ ทั้งนี้เบื้องต้นตำรวจทราบว่านายสุทินน่าจะเป็นระดับแม่ข่ายในขบวนการดังกล่าวด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่าในวันที่21 เมษายน เวลา 10.00 น. น.ส. สิรินทร์ ก่อเกียรติ หรือเมย์ ดารานักแสดงช่องมากสี เตรียมเข้าให้ปากคำหลังถูกตำรวจบก.ป. เรียกตัวไปสอบสวนกรณีมีภาพถ่ายรวมกลุ่มกับซินแสโชกุนในทริปที่เดินทางไปเที่ยวหัวหินและร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์บนเรือสำราญ
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 12 มกราคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รรท.ผบก.ป. และพ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. ร่วมกับสภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 74/1147 ซอยพานสัมฤทธิ์ 16 ถนนติวานนท์ ต.ท่าทราย อ.
เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ถนนสาทร แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. กลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.จิระศักดิ์ เพ็ชร์แก้ว รอง สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ปอศ. กรณีถูกโกงแชร์อ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 28 เมษายน ที่กองกำกับการสายตรวจ 191 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผบก.สปพ. พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.สายตรวจ และพ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผ
CLOUDSEC การประชุมชั้นนำด้านการรักษาความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตในเอเชีย-แปซิฟิกและยุโรป ครั้งที่ 5 ภายใต้หัวข้อ “รู้ให้ทัน ยันให้อยู่” หรือ “Expect the Unexpected”