ถึงกับฮากันไปทั้งประเทศ กับเหตุการณ์เว๊ป“พนันหวย”ชื่อดัง ส่ง SMS ชวน ผบ.ตร. และ ผู้การกองปราบฯ เล่นพนัน ชนตอขนาดนี้ไม่มีรอดครับ ขยายผลและจับกุมอายัดเงินกว่า 100 ล้านบาท

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2559 ตน ได้รับข้อความจากโทรศัพท์หมายเลข 099-008-0455 ชักชวนให้เล่นการพนันออนไลน์หลายครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นการท้าทายตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก จึงให้ชุดสืบสวน บก.3 ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ภ.จ.ขอนแก่น สืบสวนเว็บไซต์

“ตลาดหวย” (www.huayclub.com) และเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง พบว่าแต่ละวันมีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท และขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลเส้นทางการเงินและเตรียมอายัดเงินกว่า 100 ล้านบาท”

ครั้นวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายเล่นการพนันหวยออนไลน์ หลังชุดสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และนำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นเป้าหมาย ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น จำนวน 12 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย ต่อมามีการขยายผลจับกุมเพิ่มเติมอีก 2 ราย โดยจับได้ที่ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ต้องปรบมือดังๆให้กับชุดสืบสวนสอบสวนของกองปราบสำหรับผลงานการจับกุมคดีนี้ เพราะการในครั้งนี้ สามารถตอบสังคมที่เคยสงสัยว่า “เว๊บพนันออนไลน์ จับได้ ปิดได้ หรือไม่?” … แน่นอนครับ นี่ยืนยันได้ชัดเจนว่า “พนันออนไลน์ ตำรวจไทยจับได้ และปิดได้ !!!”
?
“สมัครจริง เล่นจริง จับจริง”

การทลายเครือข่ายแก๊งพนันออนไลน์ครั้งนี้ ใช้เวลาสืบสวนนานกว่า 2 เดือน ชุดสืบสวนสอบสวนดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสมัครเข้าร่วมเล่นพนันออนไลน์ที่เว็บไซต์ WWW.789LOT.COM กระทั่งพบว่าเว็บไซต์ดังกล่าว เปิดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ในหลายรูปแบบ โดยผู้ใช้บริการต้องโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้ให้บริการก่อน จึงจะได้รับรหัสผ่านเพื่อเข้าไปเล่นพนันออนไลน์ เมื่อสามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้ครบถ้วน ตำรวจกองปราบปรามจึงขออำนาจศาลอาญา พิจารณาอนุมัติหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว โดยสามารถควบคุมผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดได้ในวันที่ 23 ธันวาคม 2559 ก่อนจะขยายผลเพิ่มเติมถึงกลุ่มผู้บงการและนายทุนได้ที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560

?
“รู้จักพนันออนไลน์ สมัครง่าย อันตรายสูง”

หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่า พนันออนไลน์มีขั้นตอนการสมัครอย่างไร มีอันตรายและสร้างผลกระทบต่อสังคมขนาดไหน จึงขอสรุปให้เห็นภาพ ดังนี้

1.ใช้เวลาสมัครเพียงไม่ถึง 10 นาที โดยใช้เพียงสมุดบัญชีธนาคาร และหมายเลขโทรศัพท์

2.มีการพนันหลากหลายรูปแบบให้เล่น ตลอด 24 ชม.

3.เด็กและเยาวชนและกลุ่มคนวัยทำงานตอนต้น (25-35ปี) เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับเทคโนโลยี

4.เล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา ขอมีเพียงแค่โทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน๊ต ไม่ว่าจะเป็น ในห้องนอน ห้องน้ำ ห้องเรียน ที่ทำงาน บนรถ ฯลฯ

5.มีคนกลาง หรือ Agent คอยทำหน้าที่อำนวยความสะดวกระหว่างผู้เล่นกับเว๊ปพนัน
?
“ใครๆก็เล่นพนันได้ กระทั่งคนในครอบครัวของคุณ”

สิ่งที่น่ากังวลก็คือ ผู้เล่นพนันออนไลน์อาจเป็นใครก็ได้ในสังคม เพราะการเล่นพนันออนไลน์สามารถเล่นได้โดยไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เหมือนการเล่นการพนันทั่วไป ขอมีเพียงแค่โทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน๊ต และยากในการตรวจสอบว่าใครกำลังเล่นพนันออนไลน์อยู่ ซึ่งคนๆนั้นอาจจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่นั่งโต๊ะข้างๆคุณ เป็นคนที่นั่งตรงข้ามกับคุณบนรถไฟฟ้า เป็นนายธนาคารที่แต่งตัวดี เป็นข้าราชการระดับสูงที่มีหน้ามีตาทางสังคม เป็นหนุ่มขับวินมอเตอร์ไซค์ปากซอย หรืออาจจะเป็นลูก ๆ ของคุณที่กำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนห้องนอนก็เป็นไปได้ เพราะการเล่นพนันออนไลน์จะไม่แสดงออกทางพฤติกรรมมี่เด่นชัดมาก ก็เหมือนการใช้เทคโนโลยีธรรมดาทั่วๆไป
?
“Agent ตัวอันตรายรูปแบบใหม่ ไม่แพ้โต๊ะรับพนัน”

ก่อนหน้านี้มีความเชื่อกันว่า “การเล่นพนันออนไลน์ดีกว่าเล่นกับโต๊ะรับพนัน เพราะการเล่นพนันออนไลน์ต้องโอนเงินสดเข้าไปก่อน มีเท่าไหร่ก็เล่นได้เท่านั้น ทำให้ไม่มีปัญหาหนี้สิน แตกต่างกับโต๊ะรับพนันที่จะปล่อยเครดิตให้ก่อน แบบแทงก่อนจ่ายทีหลัง ทำนองเดียวกับ “งวดชนงวด” ที่คอหวยคุ้นชินกัน ซึ่งกว่าที่นักพนันจะรู้ตัว ก็ติดหนี้กับโต๊ะจนเกินความสามารถในการจ่ายไปแล้ว

ผู้ที่เป็นเอเย่นต์ จะได้ค่าคอมมิสชั่นจากเจ้าของเว็บพนันในอัตราที่สูงพอสมควร ทำให้เกิดการแข่งขันของเอเย่นต์ ที่สูงขึ้นตามไปด้วย ใครที่พอมีเงินก็สามารถเป็นเอเย่นต์ได้ ยิ่งเว๊ปพนันในไทยเปิดกันมากขึ้น ยิ่งทำให้ต้องทำการตลาดเพื่อแข่งขันกันหาลูกค้า ยิ่งทำให้เอเย่นต์เกิดมากขึ้น และวิธีหนึ่งที่เอเย่นต์จะใช้จูงใจลูกค้าก็คือ การให้เครดิตกับลูกค้าไปก่อนแล้วเก็บเงินที่หลัง ซึ่งไม่ต่างจากโต๊ะ
รับพนันแบบเดิมๆ เพียงแค่วิธีการเล่นเปลี่ยนไป และเมื่อเกิดการติดหนี้ แล้วไม่จ่ายคืนตามกำหนด กระบวนการทวงหนี้ก็จะเกิดขึ้นอย่างที่ทราบ ๆ กัน

ฉะนั้น จากที่เคยคิดว่าการพนันออนไลน์ไม่อันตรายเท่ากับการพนันกับโต๊ะรับพนัน เราคงต้องกลับมาคิดกันใหม่ เพราะในปัจจุบันเอเย่นต์ ได้ให้เครดิตกับลูกค้าเหมือนโต๊ะพนันในอดีต การพนันออนไลน์จึงเป็นเพียงแค่การแปรสภาพจากการพนันกับโต๊ะบอลในโลกแห่งความเป็นจริง ไปสู่การพนันกับโต๊ะเสมือนในโลกออนไลน์

ด้วยการเข้าถึงแหล่งพนันได้ง่ายผ่านสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ การมีความถี่ในการเล่นพนันที่เล่นได้แทบตลอด 24 ชั่วโมง และการนิยมเดิมพันกันในจำนวนเงินที่สูง ล้วนเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความอันตรายของการพนันออนไลน์ กอปรกับการมีเด็กและเยาวชนและคนหนุ่มสาวเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ ยิ่งเป็นสิ่งยืนยันว่าพนันออนไลน์มีอันตราย

การจับกุมเว็บพนันออนไลน์โดยการนำของท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในครั้งนี้ โดยการประสานงานกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ใช้อำนาจ ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 48 วรรคสอง มีคำสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่เชื่อได้ว่ามีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือ ซ่อนเร้น อันเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของกลุ่มเครือข่ายผู้รับแทงพนันหวยออนไลน์ 34 บัญชี ยอดเงินรวมทั้งหมด 57 ล้านบาท แสดงให้เห็นมูลค่ามหาศาลของกิจการพนัน ที่เงินส่วนใหญ่มาจากเด็กเยาวชนและคนรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของชาติ

?
“คนไทยกลัวอาย มากกว่ากลัวกฎหมาย”

แม้การจับกุมเว็บพนันออนไลน์ในครั้งนี้อาจดูเป็นตลกร้ายของสังคมไทย แต่สิ่งที่สังคมควรได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกับความตลกในคดีนี้ คือ การพนันออนไลน์สามารถจับกุมได้ และสามารถขยายผลไปสู่การปิดเว๊ปไชต์พนัน รวมทั้งอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายพนันได้ โดยเริ่มต้นกระบวนการสืบสวนสอบสวนจาก “หมายเลขโทรศัพท์” ที่ส่ง SMS เพียงเท่านั้น และแน่นอนว่าหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งรวมไปถึงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ยึดได้ ต้องมีฐานข้อมูลลูกค้าผู้เล่นการพนัน รวมอยู่ด้วย

มีความจริงอยู่อย่างหนึ่งเกี่ยวกับคนไทยที่ใคร ๆ ต่างก็รู้ดี นั้นคือ “คนไทยกลัวอาย มากกว่ากลัวการทำผิดกฎหมาย” โดยเฉพาะโทษทางกฏหมายของการเล่นพนัน ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 กำหนดโทษเพียง จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 500 บาทเท่านั้น แล้วใครจะไปกลัวล่ะครับ

หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะย้อนรอย โดยการส่ง SMS ไปถึงลูกค้านักพนันที่มีรายชื่ออยู่ในฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ยึดได้ แจ้งเตือนว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าท่านได้ลักลอบเล่นการพนันออนไลน์” ซึ่งการเล่นการพนันก็เป็นความผิดตามกฎหมาย อาจมีโทษทางวินัยถึงขั้นไล่ออกได้ นี่เท่ากับเป็นการจัดการด้านอุปสงค์ (Demand Side) ของการพนัน ซึ่งอาจต้องทำควบคู่ไปกับการจัดการด้านผู้ประกอบการหรือเจ้าของเว็บพนัน

สุดท้ายนี้ เราก็คงได้แต่หวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความสำคัญ “SMS ชวนพนัน” อย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติเฉพาะกรณีของท่าน ผบ.ตร. เท่านั้น เพราะเราก็ไม่รู้ว่า ข้อความชวนพนันเหล่านั้นจะถูกส่งถึงมือลูกหลานของเราเมื่อไหร่ ?

ราเมศร ศรีทับทิม
มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน