วันที่ 3 มีนาคม เวลา 12.00 น. พ.ต.อ.อุกกฤษฎ์ ทรงชัยสงวน ผกก.สภ.เมืองนครพนม พ.ต.ท.ก้องเกียรติ เฟื้องทอง รักษาราชการ รอง ผกก.(ป.) สภ.เมืองนครพนม พ.ต.ท.ประสิทธิ มิรัตนไพร รอง ผกก.สืบสวน พ.ต.ท.โดมฤทธิ์ ศรีพินเพราะ สว.สส. ร.ต.อ.ศักดิ์ศรี ศรีพั่ว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม นำตัวนายธนวันต์ กันหา อายุ 19 ปี ไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพ จุดแรกที่บริเวณหลังตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนม ต่อจากนั้นไปยังตลาดอินโดจีน 2 เป็นร้านขายอาหาร จำนวน 4 ร้าน จากนั้นไปทำแผนต่อที่ร้านข้าวมันไก่ ถนนศรีเทพ หลังตลาดอินโดจีน และนำตัวไปยังร้านขายเครื่องดื่มข้าง รพ.นครพนม อีก 3 ร้าน ซึ่งผู้ต้องหาตระเวนงัดแงะภายใน 1 คืน

สืบเนื่องจาก เช้าวันที่ 1 มี.ค. มีนายสิทธิพร ศิริวรเดชกุล หรือเสี่ยเปี๊ยก เจ้าของร้านเสียงทิพย์ไฮเทค ร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดใน จ.นครพนม พร้อมนายเกียรติภูมิ ศิริวรเดชกุล น้องชาย เป็นเจ้าทุกข์เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ว่า มีคนร้ายงัดประตูรถยนต์เบนซ์ สมาร์ท สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน กง 5604 นครพนม ซึ่งจอดอยู่หลังตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนม มีทรัพย์สินสูญหายไปหลายรายการ ในจำนวนนั้นมีเงินเยนญี่ปุ่น 300,000 เยน คิดเป็นไทยประมาณ 90,000 บาท พาสปอร์ต กระเป๋าหลุยส์ บัตรประจำตัวไกด์ ฯลฯ

รายงานระบุว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันอยู่ ก็มีเจ้าทุกข์รายอื่นๆ เกือบ 10 คนขึ้นมาแจ้งความว่าในคืนเดียวกัน ร้านค้าของพวกตนได้ถูกคนร้ายงัดขโมย ได้ทรัพย์สินเป็นเงินรวมแล้วกว่า 1,000 บาท คาดว่าคนร้ายอาจจะเป็นคนเดียวกัน พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.นครพนม รับทราบรายงานจึงเรียกประชุมด่วน เพราะเป็นคดีลักทรัพย์ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนภายในเขตเทศบาลเมืองนครพนมเป็นจำนวนมาก จึงสั่งการให้สืบสวนและสอบสวนนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด จนสืบทราบว่ามีเด็กวัยรุ่นติดเกมส์คนหนึ่ง ซึ่งมีประวัติเคยก่อคดีวิ่งราวทรัพย์ภายในเขตเทศบาลเมืองนครพนมเมื่อ 5 ปีที่แล้ว หายออกจากบ้านไป จึงสืบสวนกระทั่งทราบว่าเด็กวัยรุ่นผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ว่าจ้างรถแท็กซี่จาก จ.นครพนมเดินทางไปยัง จ.อุดรธานี ในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา และมีส่วนพัวพันเกี่ยวกับคดีลักทรัพย์ภายในเขตเทศบาลเมืองนครพนม จึงเดินทางไปยัง จ.อุดรธานี ตามที่สายรายงาน พบผู้ต้องสงสัยคือ นายธนวันต์ กันหา เดินอยู่ภายในซอยประชาสันติ 15 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ขอเข้าตรวจค้น พบเงินสด 51,542 บาท บัตร ATM 3 ใบ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จึงนำตัวไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง

นายธนวันต์ให้การสารภาพว่า เป็นคนร้ายที่ตระเวนงัดแงะจริง โดยใช้รถจักรยานยนต์ลงมือทำงานเพียงคนเดียว ตระเวนลักทรัพย์ตามสถานที่ดังกล่าว อาศัยที่ลับตาคน ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน เริ่มลักทรัพย์ตั้งแต่เวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 1 มี.ค. โดยเริ่มจากตลาดอินโดจีน เขตเทศบาลเมืองนครพนม ไปตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนม พบรถเบนซ์ สมาร์ท สีขาวแดง เห็นประตูรถปิดไม่สนิท มีกระเป๋าหลุยส์วางไว้หน้ารถ จึงเปิดเข้าไปเอาขโมยทรัพย์สินดังกล่าวภายในรถ จากนั้นก็ตระเวนไปที่ข้าง รพ.นครพนม เปิดกระเป๋าหลุยส์ พบมีเงินเยนญี่ปุ่นจำนวนมาก จึงได้ว่าจ้างรถแท็กซี่เพื่อเดินทางไปที่ จ.อุดรธานีไปหาเพื่อน และวันรุ่งขึ้นทำการแลกเงินเยนได้เป็นเงินไทย 90,000 บาท จึงโอนเงินซื้อเกมส์ออนไลน์จำนวน 15,000 บาท นำเงินส่วนที่เหลือกินเที่ยวอย่างสนุกสนาน หลังจากนั้นก็เดินทางกลับบ้านเพื่อนในซอยประชาสันติ 15 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม และยอมรับว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว อายุ 14 ปี ในขณะนั้น วิ่งราวทรัพย์ร้านจำหน่ายอุปกรณ์การไฟฟ้าจริง ถูกควบคุมตัวที่สถานพินิจฯเป็นเวลา 3 ปี ก่อนพ้นโทษออกมาและก่อคดีลักทรัพย์เพื่อนำเงินไปเล่นเกมส์ออนไลน์

ด้าน พ.ต.อ.อุกกฤษฎ์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนเสมอมา แม้ว่าคดีนี้จะไม่ใช่คดีร้ายแรง แต่คนร้ายเป็นเยาวชนที่เพิ่งพ้นคดีออกมา ตระเวนลักทรัพย์ของประชาชนที่ทำมาหากินอย่างสุจริต เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะรายนายธนวันต์ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป