ผู้เขียน | สราวุฒิ สิงห์เอี่ยม |
---|
วันที่ 22-23 ธันวาคมนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นัดประชุมพิจารณาร่างกฎหมายหลายฉบับ
หนึ่งในนั้นคือ ร่างพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. …. ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว
โดยจะมีการแก้ไขร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ อาทิ กฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต กฎหมายว่าด้วยสุรา และกฎหมายว่าด้วยยาสูบ
ฉบับหนึ่งที่น่าจับตาว่าจะออกมาอย่างไร นั่นคือ ร่างกฎหมายว่าด้วยยาสูบ โดยเฉพาะคำนิยามเกี่ยวกับ “บุหรี่ไฟฟ้า”
ปัจจุบันรัฐบาลมีคําสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ห้ามขาย ห้ามให้บริการ “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสําหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า”
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ ก็มีประกาศห้ามนำเข้า “บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า”
ถามว่าคำสั่งห้ามดังกล่าวคุมอยู่ไหม…ตอบได้เลยว่าเอาไม่อยู่
ยังเห็นสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันเกร่อ แถมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยว่าบุหรี่ธรรมดา(ที่ยังไม่บ้ามีคำสั่งห้ามสูบ) ราคาแพงขึ้นจากการขึ้นภาษีสรรพสามิตที่ผ่านมา
คนจึงหันไปสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้น ขณะที่นักสูบบางส่วนหันไปสูบบุหรี่ที่มีราคาถูกและยาเส้นแทน จะเห็นว่ายอดขายยาเส้นเพิ่มมากขึ้น
นักสูบไม่ได้ลดลงตามเป้าประสงค์แต่อย่างใด
แถมยังทำให้นักสูบมีความเสี่ยงมากขึ้น ด้วยไม่มีกลไกอะไรมาควบคุมดูแล
ทั้งยาเส้นที่ไม่มีก้นกรอง และบุหรี่ไฟฟ้าที่มีการใช้สารเคมีเติมกลิ่น เติมรสด้วย
เป็นการตอกย้ำว่า ทั้งมาตรการห้ามและมาตรการภาษี…เอาไม่อยู่ แถมยังจะเป็นอันตรายมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ทั้งที่ บุหรี่ไฟฟ้า ได้รับการรับรองจากสำนักงานสาธารณสุขอังกฤษว่ามีความปลอดภัยกว่าบุหรี่เผาไหม้แบบปกติถึง 95%
ขณะที่ประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ สหรัฐ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ล่าสุดแคนาดา ก็กำลังแก้ไขกฎหมายการบริโภคยาสูบ เพื่อให้ผู้สูบบุหรี่เปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อการเลิกบุหรี่
ประเทศต่างๆ เหล่านี้ไม่เพียงไม่ห้าม แถมยังรณรงค์ให้มาสูบบุหรี่ไฟฟ้าแทนบุหรี่ธรรมดา โดยมีมาตรการควบคุม ตั้งแต่การผลิต การจำหน่ายและการโฆษณา
แต่ประเทศไทยคิดอะไรไม่ออกก็ห้ามไว้ก่อน ง่ายดี ไม่ต้องคิดมาก โดยไม่เปิดทางเลือกอื่น ผลที่ได้กลับเลวร้ายกว่าเดิม
นักสูบก็ยังสูบต่อไป แถมยังเสี่ยงต่อสุขภาพมากขึ้น ขณะที่รัฐเองก็ภาษีไม่ได้
เลิกทำตัวเป็นคุณพ่อจอมเฮี้ยบ.. ผูกขาด… เผด็จการ…เรื่องสุขภาพ ซะเถอะ
เมื่อวันพฤหัสที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดงานเสวนาในครั้งที่ 2 ขึ้นมา ซึ่งครั้งนี้เป็นหัวข้อที่กำลังเป็นที่นิยมจนเรียกได้ว่าเป็นระดับ Distruptive แห่งชาติ กับเรื่อง
“พิสิษฐ์” ยัน สื่อต้องมีใบประกอบวิชาชีพ ไม่ต่างจากนวดแผนโบราณถ้า ชี้ ใครไม่มีก็ต้องจำคุกเหมือนกัน ยก เว็บ sanook – kapook เข้าข่ายสื่อออนไลน์ภายใต้กม.คุ้มครองสื่อ เมื่อวันที่ 26 เมษายน พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองประธานกรรมาธิการ (กมธ.)
วันที่ 29 เมษายน 2560 เมื่อเวลา 01.30 น.เจ้าหน้าที่กองร้อยรักษาความสงบ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 12 รักษาพระองค์ ดูแลพื้นที่อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี นำโดย ร.ต.นิมิตร จันทร์ชาญ ผบ.มว.ป.พัน.12 ผบ.หมวด กองร้อยรักษาความสงบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่ง ร่